ช่วงก่อนได้มีโอกาสดูคลิบ 2 คลิบ มี sub Thai ทั้งคู่ (ปรับตรงด้านล่างขวามือรูปเฟือง) คือ
กับคลิบนี้
คือจริง ๆ ดู 2 คลิบนี้จบก็ไม่ต้องอ่านต่อแล้วก็ได้ครับ เป็นคลิบที่แนะนำอยากให้ทุกคนได้ดู เป็น 10 นาทีที่ทำให้เข้าใจชีวิตมากขึ้น
ผมได้ดูคลิบแรกจากการรแนะนำผ่าน
facebook ของ อ.วิริยะ ท่านสรุปคลิบให้ด้วย แต่อยากให้ดูคลิบด้วยจะซึ้งใจมาก T T
โดยสรุปเนื้อหาของคลิบแรกคือ
บทเรียนจากงานวิจัยที่ยาวที่สุดในโลก ที่ติดตามชีวิตคนจำนวน 724 คนเป็นเวลากว่า 75 ปี ทำให้ได้ผลการวิจัยออกมาว่า “ความร่ำรวย” “ความโด่งดัง” ไม่ใช่คำตอบของการมีชีวิตที่ดี หรือ สุขภาพที่ดีแม้แต่นิดเดียว
แต่คำตอบของชีวิตที่ดี คือ “ความสัมพันธ์ที่ดี” ความสัมพันธ์ที่ดีจะช่วยให้เรามีความสุขและแข็งแรงมาขึ้น
ความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง จะทำให้คุณมีความสุขกว่า แข็งแรงกว่า และ มีอายุที่ยืนยาวกว่า
ดีในที่นี้คือ ไม่ได้ขึ้นกับจำนวน หรือรูปแบบ แต่เป็นเรื่องของคุณภาพ เช่น หากว่าคุณอยู่ในความสัมพันธ์แบบการแต่งงานที่แย่จะส่งผลลบมากกว่าการหย่าร้างด้วยความเข้าใจกัน
ความสัมพันธ์ที่ดี ไม่เพียงแต่ช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีเท่านั้นแต่ยังดีต่อสมองของเราด้วย
ความสัมพันธ์ที่ดีไม่ได้หมายถึงการไม่ทะเลาะกันเลย แต่เป็นความสัมพันธ์ที่เรารู้ว่าเมื่อถึงเวลาที่ต้องการใครสักคน เราจะมีคนที่พึ่งพาได้
คนที่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ ที่ดีต่อคนใกลตัวของพวกเขาต่างหากคือ คนที่มีชีวิตที่ดีที่สุด
ฟังเสร็จผมก็ทึ่งอยู่ 2 เรื่อง คือ
1) ความจริงจังในการศึกษา ค้นคว้าวิจัยของวิธีคิดทางตะวันตกที่จริงจังต่อเนื่อง จนถึงราก ดำเนินการยาวนานเอกสารกว่าหมื่นหน้า เพื่อจะได้คำตอบที่เป็นหัวใจสำคัญไม่กี่นาที ให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น
2) อีกเรื่องผมนึกกลับไปถึงความเชื่อแบบทางพุทธ ที่เชื่อเรื่องกรรมเป็นผลของการกระทำ ที่ส่งผลให้เราเวียนว่ายตายเกิด ต้องมามีสัมพันธ์กับคนที่รายล้อมเราอยู่ในขณะนี้ ในลักษณะต่าง ๆ และเชื่อว่าเราเกิดมาเพื่อชดใช้กรรมและเป็นโอกาสที่เรา จะได้หลุดพ้นจาก วฎัสังสาร ซึ่งในแง่หนึ่งมันก็คือ การปรับวางความสัมพันธ์ที่ถักทอกันอยู่ ให้ไปสู่การหลุดพ้น
มันช่างเชื่อมโยงกันอย่างน่าประหลาดใจ
ในคลิบเล่าถึงนการทดลองกับหนู โดยชี้ให้เห็นว่า หนูที่อยู่กรงลำพัง โดยมีน้ำเปล่า และน้ำผสมสารเสพติดไว้ในกรง หนูจะเหลือกินสารเสพติดจนตาย แต่พอ สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี มีหนูตัวอื่นอยู่ด้วย เป็นชุมชนและสิ่งแวดล้อมที่ดีสำหรับหนู หนูจะเลือกกินน้ำเปล่า ไม่ได้กินสารเสพติดจนตาย บทสรุปของคลิบนี้คือ การแก้ปัญหาการเสพติด คือ ความสัมพันธ์ และสภาพแวดล้อม กับคนก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน โดยมีตัวอย่างของทหารผ่านศึกสงครามเวียดนาม
(ผมไม่แน่ใจว่าเนื้อหามีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน ส่วนตัวมีความไม่แน่ใจอยู่บ้าง และยังไม่มีโอกาสอ่านต้นฉบับของงานวิจัยที่ว่า)
แต่พอดู 2 คลิบที่เล่าให้ฟังจบ มันมีความเชื่อมโยงกันและตอกย้ำ Keyword คำว่า connection หรือ ความสัมพันธ์เป็นเรื่องสำคัญต่อชีวิตเราเป็นอย่างมาก
ทีนี้ด้วยความหมกหมุ่่นเรื่อง การเรียนรู้ การศึกษาของผม ผมก็คิดวนเวียนแต่กับเรื่องนี้ คือ ถ้าเรื่องความสัมพันธ์มันสำคัญต่อชีวิตขนาดนี้ เรายังจะจัดการศึกษาแบบไหนให้เด็ก เป้าหมายของการศึกษาจะเป็นอย่างไร
มันยังคงจะเป็น การได้อันดับที่ดี เกรดดี ๆ เพื่อสอบเข้าคณะดี ๆ จบมามี ชื่อเสียง เงินทอง อยู่หรือเปล่า ? หรือ connection ที่ดีคือการที่ลูกเราจะรู้จักใครในสังคมโรงเรียน ?
เพิ่มเติม คลิบที่เป็นฉบับเต็มหรือภาคขยายของคลิบที่ 2 (มี sub Thai)