สอนแบบไม่(ค่อย)สอนเป็นอย่างไร

โปรดติดต่อลงโฆษณา
เพื่อร่วมสนับสนุนแพลตฟอร์มฟรีของเราต่อไป
Top Leaderboard
Fixed 1,900 baht/month
Slot 550 baht/month

สอนแบบไม่(ค่อย)สอนเป็นอย่างไร

สอนแบบไม่(ค่อย)สอนเป็นอย่างไร
วันนี้ขอแบ่งปันประสบการณ์การสอนแบบไม่(ค่อย)สอนค่ะ พอดีมีเพื่อนรักเขียนถามมา แล้วตอบไว้ยืดยาว เลยขอตัดต่อเอามาลงไว้ตรงนี้ด้วยค่ะ

ลูกสาวคนโตอายุใกล้ 11 ขวบแล้ว เคยไปโรงเรียน

ไทชอบอ่านนิยายเป็นหลัก หนังสือไม่นิยายก็อ่านที่สนใจ และหาข้อมูลตามเน็ทอ่านเอาเอง ช่วงปีนึงที่ผ่านมา ไทสนใจเรื่องเทพเจ้ากรีกสืบเนื่องมาจากการที่อ่านนิยายเรื่อง Lightning Thief (ที่ทำเป็นหนัง) มีเกี่ยวกับเทพเจ้ากรีก ทำให้อ่านเกี่ยวกับเทพเจ้ากรีก เลยโยงไปถึงภูมิศาสตร์แถวนั้น และชีวิตความเป็นอยู่ของชาวกรีกสมัยโบราณ พออ่านเรื่องกรีกจนไม่รู้จะอ่านอะไรแล้ว ก็หันมาสนใจอียิปต์ต่อ จากเทพเจ้าอียิปต์ มามัมมี่ มาฟาโรห์สมัยต่างๆ มาภูมิศาสตร์และความเป็นอยู่สมัยนั้นอีก ตอนนี้เริ่มซาๆเพราะยุ่งกับ on-line school ต่อด้วยเปียโน แต่เห็นเปรยๆว่าสนใจพวกโรมัน ตอนนี้ยังไม่มีเวลาไปขนหนังสือห้องสมุดชุดใหม่ คาดว่าคงมีเกี่ยวกับโรมันต่อไปจ้ะ อีกอย่าง ไทเป็นคนชอบเขียนด้วย เขียนนิยายมั่ง เขียนกลอนมั่ง เขียนไดอารี่มั่ง ความที่ไม่เคยมีใครไปติเตียนหรือวิจารณ์การเขียนของเค้ามากนัก ทำให้เค้ารักที่จะเขียน .. การที่อ่านมาก เขียนมาก ทำให้สะกดคำเก่ง และได้ grammar ตามธรรมชาติ แต่ไม่รู้ชื่อเรียกเป็นทางการหรอกนะ แบบถามว่าคำไหนคือ preposition จะตอบไม่ถูก แต่ใช้ได้ถูกต้อง ซึ่งเราเลยไม่กังวล สรุปว่า เราไม่ต้องสอนมาก หน้าที่เราคือพาไปห้องสมุด คอยเปิดหูเปิดตาดูว่ามีแหล่งข้อมูลหรือกิจกรรมอะไรที่เกี่ยวกับสิ่งที่เค้าสนใจ พาไปกิจกรรมต่างๆ คอยรับรู้และหาข้อมูลว่า หนังสือเล่มไหนที่น่าสนใจสำหรับเค้า เหมาะกับเค้า ประมาณนี้

อย่างเรารู้ว่าไทสนใจเรื่องสัตว์ ก็เลยลองพาไปกิจกรรมดูนก ตอนนั้น 5 ปีมาแล้ว อายุประมาณ 6 ขวบ เราก็ไม่คิดว่าเด็กไป ลองพาไปดู เค้าก็ชอบและสนใจ ปรากฏว่าคนนำดูนกมีเปิดสอนเด็กๆ ฟรีด้วย เจอกันเดือนละครั้ง ครูจะพาดูและอธิบายให้ฟังว่าสังเกตยังไงบ้าง เราก็ทนตื่นเช้าพาไปทุกเดือน นี่ผ่านมา 5 ปีก็ยังไปกันอยู่ ไทก็ได้ความรู้เรื่องนกเยอะมากๆ ไทสนใจไดโนเสาร์ เราก็พาไปพิพิธภัณฑ์ดูไดโนเสาร์บ่อยๆ จนตอนหลังไปเจอว่ามีงานสำหรับอาสาสมัครให้ไปทำความสะอาดฟอสซิลเดือนละครั้ง เราก็พาไปทำอยู่เป็นปีๆ จนตอนหลังไทเริ่มเบื่อค่อยหยุดไป พวกนี้คือกิจกรรมที่เราต้องขวยขวายหามาและขยันพาไป เค้าก็เรียนรู้วิทยาศาสตร์จากสิ่งที่สนใจแนวๆนี้แทนการเรียนในห้องเรียนตามหัวข้อที่ครูสอน นี่ไทมาบอกว่าสนใจพวกหุ่นยนต์ เราก็ดูๆอยู่ว่าจะให้ไปค่ายเกี่ยวกับหุ่นยนต์ตอนปิดเทอมนี้ดีไหม ตกลงได้กี่วิชาแล้ว .. สังคม ภาษาอังกฤษ วิทย์

มาศิลปะบ้าง ไทเรียนเปียโนมา 6 ปีแล้ว ก็ได้รู้จักเพลงคลาสสิคต่างๆและคนแต่งเพลงพวกนั้นจากทางนั้น และชอบวาดรูป(มีอะไรที่ยัยคนนี้ไม่ชอบมั่งมั้ยเนี่ย 555) ก็วาดๆๆๆๆ ตอนเด็กๆเคยพาไปเรียนวาดรูปบ้าง แต่ครูที่ชอบดันย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว ยังไม่เจอครูใหม่เลย แต่ก็ยังวาดอยู่เรื่อยๆ นานๆทีก็เพ้นท์กันบ้าง บางทีเราก็หาหนังสือประวัติศิลปินสำหรับเด็กอ่านมาจากห้องสมุดบ้าง หนังสือภาพสำหรับเด็กก็มี ความที่ชอบอ่าน เธอก็อ่านหมดถ้าหนังสือเขียนไม่น่าเบื่อจนเกินไป
วิชาพละ สมัยก่อนเรียนยิมนาสติค แต่พอเริ่มโต กีฬาที่นี่ทุกอย่างจะเป็นจริงเป็นจังมาก ถ้าเรียนยิมต่อ ต้องมีแข่ง ต้องเรียนอาทิตย์ละ 2-3-4 ครั้ง ครั้งละ 2-3 ชั่วโมง ไม่นับวันแข่งอย่างน้อยเดือนละครั้ง เราเลยให้เลิกเรียน ตอนนี้ก็วิ่งเล่นตามสนามเด็กเล่น ว่ายน้ำสระหลังบ้าน ขี่จักรยาน ชู๊ตบาส เล่นสกู๊ตเต้อร์ ปีนต้นไม้ วิ่งไล่จับกับน้อง ประมาณนี้ วิชาคอมพิวเตอร์ก็ไม่ต้องห่วง เธอใช้เป็นหมดมานานแล้ว word powerpoint หาข้อมูลในเน็ท

มาถึงเลข เก็บไว้เป็นวิชาสุดท้าย เพราะเป็นอะไรที่ต้องพยายามสอนมากที่สุด มีหนังสือแบบฝึกหัดให้ แต่เธอไม่หยิบมานั่งทำเอง เมื่อก่อนก็สู้รบกันเรื่องนี้แหละ ตอนหลังมาเจอโรงเรียนของคนจีน เรียนอาทิตย์ละครั้ง มีการบ้าน เลยพาไปเรียน ได้ผลแฮะ ไม่ใช่ว่าครูสอนดีอะไรมากมายหรอก แต่การที่ต้องส่งการบ้านครูเลยทำให้ยอมทำ เราก็ต้องสอนเองด้วยเพราะครูมีเวลาแค่อาทิตย์ละครั้ง ไม่ค่อยพอสอนให้ละเอียด แต่คิดๆดู เราว่าที่มาเป็นแบบนี้เป็นเพราะเราเองติดกับความคิดที่ว่า การเรียนเลขคือการเอาโจทย์มานั่งทำๆๆๆเท่านั้น ถ้าเราสามารถประยุกต์วิธีการสอนมันเหมือนอย่างวิชาอื่นๆ ก็คงไม่ต้องมารบกันขนาดนี้ แต่ตอนนี้ยังทำได้แค่นี้ก็ตามนี้ไปก่อน

ครบทุกวิชาแล้วนะ อ้อ ยังมีภาษาต่างประเทศ ไทก็สนใจและเรียนอยู่เรื่อยๆนะ เคยเรียนสแปนิชเทอมนึง(แถวนี้เม็กซิกันพูดสแปนิชเยอะ) เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นจากแม่ๆด้วยกันอยู่พักนึง ปีที่ผ่านมาเรียนภาษาจีนที่ รร จีนที่ไปเรียนเลข .. นี่เราตอบมากกว่าที่ถามเพียบ