เราพยายาม หลายครั้ง ที่จะใช้เวลา ในกรุงเทพ ฯ ให้น้อยที่สุด เนื่องจาก การจราจร ที่แน่นหนา มลภาวะ ที่เป็นพิษ เด็กหญิงอาสา รวยดี มีอาการ เมารถ แล้วอาเจียร ถึงสองครั้ง ในการมา เมืองหลวง ของประเทศไทย ครั้งนี้ และทั้งสองครั้ง อยู่บนรถยนต์ ที่ขับโดย คน กทม. ซึ่งไม่คุ้นชิน กับ พลังงานที่เร่งรีบ และพลุกพล่าน แต่เราก็ประสบความสำเร็จ ในการยื่นเรื่อง ทำหนังสือเดินทาง ของประเทศเนเธอแลนด์ ให้เธอ ซึ่งทำให้ เรามั่นใจว่า เธอจะสามารถบินกลับไปที่ ยุโรป ได้โดยไม่มีวีซ่า ใดๆ เพราะ หนังสือเดินทาง ของเนเธอแลนด์ เป็นหนึ่งในหนังสือเดินทาง ที่ได้รับ ความน่าเชื่อถือ มากในโลก และไม่ต้องการวีซ่า สำหรับ การเดินทาง ในฐาน ประชาชน จากเนเธอแลนด์ แต่ ก็ต้องฟันฟ่า อุปสรรค คือ การ ที่เราต้องเอาสูจิบัตร ไปแปลเป็นภาษา อังกฤษ และมีการรับรอง การแปล ที่ได้มาตราฐาน กับ เจ้าหน้าที่กรมการกงศุล กระทรวงต่างประเทศ ของไทย

 

เหตุการณ์ ครั้งนี้ เหมือนจะเป็น สิ่งที่กระตุ้นเตือน ในใจเราว่า พื้นฐาน ครอบครัว ที่ซัพพอร์ต เรา นั้น สำคัญมากที่สุด กับการดำรงอยู่ เพราะ เด็กหญิง อาสา รวยดี ได้รับ การสนับสนุน จากตระกูล รวยดี และมงคลศิริ ซึ่งถือเป็นญาติสนิท ในการให้ที่พังพิง อาหาร ความรัก และโอกาส ต่างๆ ถือว่าเป็นเรื่องหนึ่ง ที่เกิดขึ้น กับชีวิต ของเธอ และยังมี อีกครอบครัว ที่อยู่กันคนละฟากของโลก ในทวีป ยุโรป ก็ยังให้การ สนับสนุน ในการเรียนรู้ และการเดินทาง หลังยุคโควิท19 ของเธอ อีกด้วย

 

จึงทำให้ครอบครัวเรารู้สึกขอบคุณ และดีใจ รวมถึง คิดว่า เราโชคดี ที่มีโอกาส แบบนี้ โดยการได้รับการสนับสนุน จากครอบครัว ทั้งสิ้น