อยากทำ Home school เริ่มต้นอย่างไรดี
ติดต่อลงโฆษณา
Leaderboard in Content 1st
Fixed 1,000 baht/month
Slot 300 baht/month


ผมมักได้เห็นคำถามแบบนี้บ่อย ๆ ในกลุ่ม Homeschool network แต่มักไม่ได้ร่วมตอบคำถามนี้ เพราะรู้สึกว่าคำตอบของตัวเองกำปั้นทุบดินไปหน่อย แต่เห็นกี่ที ๆ ผมก็มักจะตอบแบบเดิมในใจ จนวันนี้ผมมีคำอธิบายที่ดีเลยเอามาแลกเปลี่ยนกันครับ คำตอบที่ผมอยากตอบคำถามที่ว่า “อยากทำ Home school จะเริ่มต้นอย่างไรดี” ก็คือ
 
“ถ้าลูกยังไม่ได้เข้าโรงเรียนก็ให้อยู่บ้านไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องส่งเข้าโรงเรียน แต่ถ้าลูกเข้าโรงเรียนแล้วก็ไปลาออกแล้วก็เอามาอยู่ที่บ้าน”
 
ผมคิดว่ามันเท่านี้จริง ๆ ครับสำหรับการเริ่มต้น และนี่คือคำอธิบายว่าทำไมทำเพียงเท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการเริ่มต้น 

1) จากการไล่อ่านประสบการณ์ของท่านอื่น ๆ ที่ Home school ลูกหรือติดตามเด็กที่ home school ผมพบว่าปลายทางของเด็ก home school นั้นหลากหลายและเป็นไปได้มากมาย มีบางคนที่เข้ามหาวิทยาลัยได้ มีบางคนเข้าโรงเรียนมัธยมที่มีเกณฑ์ในการรับนักเรียนสูง มีบางคนประกอบอาชีพส่วนตัวจากทักษะของตัวเองโดยถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของเพื่อนร่วมอาชีพ ดังนั้นปลายทางของเด็ก home school จึงไม่น่ากังวลมาก คือแนวโน้มต่าง ๆ เริ่มจะเปิดกว้างและหาทางไปในเป้าหมายได้ หรือถ้าจะน่ากังวลมันก็เหมือน ๆ กับเด็กในระบบที่ต้องลุ้นเรียนต่อมัธยมปลาย ลุ้นเข้ามหาวิทยาลัย เรื่องนี้จึงควรวางใจได้ (แต่ก็ต้องมีการวางแผนล่วงหน้า ถ้าลูกมีอยากจะเดินทางที่มีการแข่งขันสูงเช่น การสอบเข้าบางคณะหรือบางโรงเรียนที่มีคนสมัครเยอะ มันมีทางไปแต่คงต้องทำการบ้านมากกว่าคนอื่น)

2) ความกังวลภายในใจของคุณจะนำทางคุณไปเอง คือ

2.1) ถ้าคุณกังวลเรื่องเพื่อน เรื่องสังคมคุณก็จะเริ่มหากลุ่ม หาเพื่อน หาวิธีให้ลูกตัวเองได้มีเพื่อนได้เข้าสังคม

2.2) ถ้าคุณกังวลเรื่องการเรียนการสอนว่าจะสอนอะไร แต่ละวันต้องทำอะไรบ้าง คุณก็จะเริ่มหาข้อมูล สอบถามคนอื่น หาข้อมูลต่าง ๆ ว่าต้องจัดการเรียนการสอนอย่างไร มีหลักสูตรอะไรบ้าง

2.3) ถ้าคุณกังวลเรื่องวุฒิการศึกษา ปัจจุบันคิดว่า เรื่องวุฒิการศึกษามีทางเลือกพอสมควร แล้วแต่ว่าบ้านไหนจะจัดการอย่างไร ซึ่งถ้าคุณกังวลเรื่องนี้คุณก็จะหาข้อมูลต่อและผมว่าทางเลือกที่มีอยู่ก็เพียงพอเช่น การลงทะเบียนกับเขตการศึกษา การลงชื่อกับโรงเรียนรุ่งอรุณ หรือการซื้อหลักสูตรจากเมืองนอกมาเรียนเพื่อรับวุฒิ การเรียนทางไกล ซึ่งสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จาก รูปแบบการทำโฮมสกูล

2.4) ถ้าคุณกังวลใจเรื่องเวลา คุณก็คงหาทุกวิถีทางที่คุณจะมีเวลาให้ลูก คุณก็จะคิดถึงมันบ่อย ๆ ว่าจะทำอย่างไร คุณจะบริหารจัดการเวลาและการเงินของคนในครอบครัวอย่างไรให้เป็นไปได้สำหรับการทำ Home school

ผมคิดว่าความกังวลใจของแต่ละกันไม่เหมือนกัน ให้ความสำคัญในเรื่องต่างๆ ไม่เหมือนกัน บางคนไม่สนใจวุฒิ บางคนไม่สนใจตารางเรียน บางคนเมื่อลูกโตอยากให้ลูกเข้าโรงเรียนมีชื่อ บางคนมีความพร้อมเรื่องการเงินและเวลา บางคนไม่มี คุณก็จะหาข้อมูลและหาวิธีการในเรื่องนั้น ๆ เพิ่มเติม แนวทางของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน แต่ถ้าคุณกังวลเรื่องอะไรแล้ว อยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไร มันก็ไม่สำเร็จสุดท้ายคุณก็ต้องเลิกไปเอง หรือหาแนวทางอื่นที่คุณทำได้แทน

ประเด็นที่อยากจะชี้ให้เห็นก็คือ ถ้าคุณและลูกทำได้ดีพอ หรือทำได้ในระดับที่คุณพอใจความกังวลใจต่าง ๆ ก็จะค่อย ๆ คลี่คลายและกลายมาเป็นความสำเร็จทีละก้าวที่คุณกับลูกได้ร่วมกันเรียนรู้ ถ้าคุณทำได้ไม่ดีพอ หรือความกังวลใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากกว่า จนนำไปสู่การนำลูกกลับไปเข้าระบบ มันก็เป็นการบอกว่าวิถีของครอบครัวอาจจะเหมาะกับการเรียนในระบบมากกว่าก็ได้ หรือแม้จะกลับเข้าระบบแล้ว สุดท้ายคุณอาจจะพบว่าคุณกับลูกทำได้ดีกว่าก็เอาออกมาทำบ้านเรียนใหม่ได้

3) แต่ถ้าคุณกังวลว่าคุณจะทำได้ไม่ดีพอละ ผมคิดว่าเป็นความรู้สึกที่คนทำ Homeschool ต้องเผชิญ หรือเป็นปราการด่านสำคัญที่สกัดไม่ให้คนทำบ้านเรียน ที่ผมอยากจะบอกก็คือ คุณจะรู้ได้อย่างไรละว่าคุณจะทำได้ดีหรือไม่ดี ถ้าคุณยังไม่ได้ทำ ยังไงมันก็ต้องลองทำก่อนอยู่ดี ถ้าทำแล้วคุณประเมินแล้วมันไม่ดีอย่างที่คาดหวังก็หาทางเลือกใหม่ ถ้าดีก็ทำต่อไป แต่สิ่งที่จะช่วยเรื่องนี้ได้ก็คือการมีกลุ่ม มีเพื่อนที่เดินร่วมกัน การแลกเปลี่ยนกับคนอื่นเป็นกำลังใจได้เป็นอย่างดี หลาย ๆ เรื่องคุณอาจจะพบว่าบ้านอื่นก็เป็น คนอื่นก็กังวลเหมือนกัน หรือบางทีก็แลกเปลี่ยนเทคนิคกันก็ช่วยอะไรได้เยอะครับ

            นั้นคือทั้งหมดของความเห็นผมต่อคำถาม “อยากทำ Home school จะเริ่มต้นอย่างไรดี” เขียนขึ้นจากประสบการณ์ของคุณพ่อคนหนึ่งที่ ณ วันที่เขียนลูกอายุ 4 ขวบครึ่ง ไม่เคยเอาลูกเข้าโรงเรียน ไม่มีประสบการณ์เอาลูกออกจากโรงเรียน เคยตั้งกลุ่ม ChiangMai Toddler Homeschool เพื่อหาเพื่อนให้ลูก แต่สุดท้ายเพื่อนลูกที่สนินมาก ๆ ก็ไม่ได้มาจากกลุ่มนี้ (ได้จากช่องทางอื่นแทน) พ่อแม่ท่านอื่นที่มีประสบการณ์แตกต่างหรือมีความเห็นเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ช่วยแบ่งปันด้วยครับ

สำหรับใครที่อยากทำบ้านเรียนมาก แต่ไม่สามารถทำได้ แนะนำอ่าน คำแนะนำสำหรับผู้ปกครองที่อยากทำโฮมสกูลแล้วไม่ได้ทำ เป็นยาแก้