แต่แล้วอังกฤษก็ได้เปลี่ยนการปกครองในสิงคโปร์จากที่ถูกปกครองด้วยบริษัท East India Company ที่อยู่ที่อินเดีย ก็ได้เปลี่ยนให้รัฐบาลของอังกฤษมาปกครองเอง
จากนั้นไม่นานนักก็เกิดสงครามโลกครั้งที่สองโดยญี่ปุ่นได้ทำลายอำนาจของอังกฤษในส่วนนั้นไปจนหมด แล้วก็ขึ้นมาปกครองในสิงคโปร์ โดยบอกว่า “ญี่ปุ่นได้ทำการปลดแอกอาณานิคมในเอเชียจากพวกตะวันตกเรียบร้อยแล้ว คราวนี้เรามาสร้างวงศ์ไพบูลย์ร่วมแห่งมหาเอเชียบูรพา เพื่อทำให้เอเชียนั้นยิ่งใหญ่ด้วยกันเถอะ!”
แต่กลับไม่เป็นอย่างที่พูดเอาไว้ พวกเขาได้ทำการสังหารหมู่คนจีนในสิงคโปร์ คนจีนจึงทำการอพยพออกไป หนึ่งในนั้นมีตัวแปรสำคัญนั้นก็คือลีกวนยูที่อพยพไปอังกฤษและเรียนต่อที่นั้น
แต่ญี่ปุ่นก็ได้แพ้ไปในสงครามโลกครั้งที่สองอังกฤษเลยกลับเข้ามามีอำนาจในสิงคโปร์อีกเป็นครั้งที่สอง แต่การเข้ามาครั้งนี้ไม่ได้มาเพื่อเอาสิงคโปร์ไปเป็นอาณานิคมอีกครั้ง แต่เพื่อมาจัดระเบียบการปกครองขึ้นใหม่ และสร้างประชาธิปไตยในสิงคโปร์ ทำให้เกิดพรรคการเมืองขึ้นมาพรรคหนึ่ง คือ พรรคกิจประชาชน หรือก็คือ PAP ผู้นำคือ ลี กวนยู ที่ได้อพยพออกจากสิงคโปรเพราะต้องหนีทหารญี่ปุ่นแล้วไปเรียนต่ออังกฤษ และเขาก็กลับมาแล้วก่อตั้งพรรค PAP ขึ้นมา
ลี กวนยูนั้นอยากให้สิงคโปร์เป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย เลยไปขอมาเลเซียว่า “ให้สิงคโปร์เข้าร่วมด้วย” ตอนแรกมาเลเซียก็ยอมให้เข้าร่วม
แต่แล้วในที่สุดในปี ค.ศ.1963 อังกฤษก็ให้เอกราชสิงคโปร์อย่างสมบูรณ์ หลังจากนั้นแนวคิดที่เริ่มบูมขึ้นมาในสิงคโปร์ คือ คอมมิวนิสต์
มาเลเซียจึงเริ่มกังวล กลัวว่าการเอาสิงคโปร์เข้ามาเป็นการตัดสินใจที่ผิดและทำให้ความมั่นคงของตัวเองสั่นคลอน ประชากรของสิงคโปร์ส่วนใหญ่เป็นคนจีน และในมาเลเซียประชากรส่วนใหญ่เป็นคนมลายู เรื่องนี้ทำให้รัฐบาลมาเลเซียกลัวสุดๆ เพราะเขาไม่อยากให้คนจีนมีอิทธิพลทางการเมืองในมาเลเซีย
ผู้นำมาเลเซีย ตนกู อับดุล เราะห์มาน คิดว่า “หากรวมสิงคโปร์ไว้กับมาเลเซีย ในอนาคตต้องเกิดปัญหาทางด้านเชื้อชาติจนมีการนองเลือดกันแน่นอน!”
เพราะงี้ในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1965 สิงคโปร์ก็ถูกไล่ออกจากการเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย นั้นทำให้ลี กวนยู ถึงขนาดต้องหลั่งน้ำตาออกมา
“ผมต้องการสร้างสิงคโปร์ที่เต็มไปด้วยคนหลากหลายเชื้อชาติและความเห็นต่างกัน ให้กลายเป็นบ้านเกิดเมืองนอน แต่ผมจะทำได้อย่างไรเมื่อสิงคโปร์เป็นเพียงดินแดนเล็กๆ ปราศจากทรัพยากรธรรมชาติ และมีปัญหาสังคมอยู่มากมายขนาดนี้”
ประเทศอื่นๆทุกคนต่างก็บอกกันว่า “สิงคโปร์ที่อังกฤษได้ออกไปแล้ว แถมมาเลเซียก็ยังไม่เอา อนาคตคงมืดมนสุดๆ”
หลังถูกไล่ออกจากมาเลเซียแล้ว ลี กวนยูจึงตั้งใจที่จะสร้างสิงคโปร์ที่ยิ่งใหญ่ด้วยตัวของสิงคโปร์เองไม่ไปพึ่งใคร
สิ่งแรกที่ลี กวนยู ทำคือการสร้างความมั่นคงทางการเมืองของพรรค PAP เพื่อที่จะสามารถปกครองสิงคโปร์ได้ง่ายขึ้น จึงมีการปราบปรามคอมมิวนิสต์ และเขาได้ทำการกำจัดพรรคการเมืองอื่นๆด้วย
ลี กวนยูทำทุกวิถีทางเพื่อให้ชนะการเลือกตั้งในทุกๆครั้ง ข่มขู่พรรคอื่น, ทำให้คนในพรรคอื่นๆแตกแยกกัน, ใช้เงินเป็นเครื่องมือหาเสียง, ทำให้พรรคอื่นไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้
จนพรรค PAP นั้นมีอำนาจและแข็งแกร่งมาก และสามารถชนะการเลือกตั้งมาตลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็คือเผด็จการดีๆนี่เอง
เมื่ออำนาจของพรรคและตัวเขาเองเริ่มมั่นคงเขาจึงเริ่มทำการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขปัญหาไปทีละอย่างเช่น
ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ, ปัญหาสังคมและความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติ, ทรัพยากรที่ไม่เพียงพอ
ปัญที่ต้องแก้นั้นมีมากมายเลยแหละ แต่ ลี กวนยูก็เห็นทางออกในการแก้ปัญหาเหล่านี้ทั้งหมด! ทางออกก็คือการปฏิรูปการศึกษา
และก็มีประกาศออกมาว่า “ต่อแต่นี้สิงคโปร์จะไม่มีคนจีน คนอินเดีย คนมลายู คนอาหรับ จะมีแต่เพียงคนสิงคโปร์เท่านั้น”
“ต่อต้านการเล่นพรรคเล่นพวก และไม่มีการแบ่งชนชั้นหรือแบ่งแยกเชื้อชาติ ไม่ว่ารากเหง้า หน้าตา และรูปร่างคุณจะเป็นคนเชื้อชาติไหน แต่พอเข้าสู่ระบบการศึกษาของสิงคโปร์คุณจะมีฐานะที่เท่าเทียมกัน และสิ่งที่จะตัดสินความสำเร็จในชีวิตของคุณไม่ใช่เส้นสายหรือเชื้อชาติ แต่เป็นผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน!”
ลี กวนยูก็ได้ทำการปลูกฝังค่านิยมในการขยัน, ทำงานหนัก ทำให้ระบบการศึกษาของสิงคโปร์มีการสอบที่เข้มงวดมาก
และทุกคนในสิงคโปร์ก็ยังสามารถเป็นใหญ่เป็นโตได้โดยไม่ถูกกีดกันถ้าหากว่าตัวเรานั้นมีความสามารถมากพอ
การที่ลี กวนยูได้สร้างระบบการศึกษาแบบไม่แบ่งแยกมานี้ทำให้สามารถแก้ปัญหาความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติในสิงคโปร์ได้
และยังมีอีกเรื่องหนึ่งก็คือ“การค้านำการศึกษา” โดยทางรัฐจะมีการวางแผนร่วมกับเอกชน ที่เมื่อมีการพัฒนาธุรกิจหรืออุตสาหกรรมสักอย่าง โรงเรียน/สถาบัน/ศูนย์ฝึก ก็จะทำการสร้างแรงงานให้ได้ตรงตามจำนวนที่อุตสาหกรรมนั้นๆต้องการ
ลี กวนยูก็เห็นว่าสิงคโปร์ยังมีของดีที่มามานานตั้งแต่อดีต นั่นคือ ทำเลที่ตั้งของสิงคโปร์
เขาจึงใช้ประโยชน์จากจุดนี้ และทำการสร้างสิงคโปร์ให้เป็นเมืองท่าเสรีเหมือนแต่ก่อน
ลี กวนยูก็สามารถสร้างจุดแข็งของสิงคโปร์ และลบจุดอ่อนได้ทั้งหมด!
ในที่สุด สิงคโปร์ก็สามารถกลายมาเป็นศูนย์กลางทางการค้า, ศูนย์กลางการเดินเรือ, ศูนย์กลางการเงิน, ศูนย์กลางการบินของภูมิภาค
ถึงแม้เขาจะถูกแขวะว่า “สิงคโปร์มีเสรีอย่างเดียวคือเรื่องการค้า ส่วนการเมือง การศึกษา และสังคมล้วนเป็นเผด็จการทั้งหมด!”
แต่ลี กวนยูและรัฐบาลก็ไม่ได้สนใจเลย
หากเศรษฐกิจดี มั่นคง และประชาชนอยู่ดีกินดี ถึงจะเป็นการปกครองแบบไหนก็ตาม ประชาชนก็ยอมรับมันได้