ที่ผ่านมาเวลาพูดถึงหนังสือการเตรียมตัวทำ home school เรามักจะนึกไปถึงหนังสือเกี่ยวกับการสอน การจัดการเรียนรู้ให้ลูก แต่นอกเหนือจากเรื่องดังกล่าวแล้ว ปัจจัยสำคัญที่อาจจะเป็นตัวตัดสินว่าจะทำบ้านเรียนให้ลูกหรือไม่ก็คือ เวลาและการเงิน อาจมีความเข้าใจผิดว่าคนทำบ้านเรียนได้ต้องเป็นคนรวยจนสามารถมีเวลาอยู่กับลูกได้ แต่จริง ๆ หลาย ๆ ครอบครัวที่ทำบ้านเรียนก็ไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็สามารถจัดสรรเวลาเพียงพอที่จะจัดการเรียนรู้ให้ลูกได้
การศึกษาของครอบครัวแมนธนู เปนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ใหลูกตั้งแตระดับปฐมวัย โดยในหลักสูตรนี้จะใชสําหรับบุตรทั้งสองคน คือ เด็กชายธรรมชาติ แมนธนู อายุ 7 ป 7 เดือน และ เด็กหญิงพฤกษา แมนธนู อายุ 4 ป 8 เดือน ซึ่งอยูในวัยที่ใกลเคียงกันและทางครอบครัวก็เห็นวาตามหลักสูตรนีจะสามารถใชได้ ตั้งแตเด็กปฐมวัยจนถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 6
เว็บไซต์นี้มีการเก็บฐานข้อมูลสมาชิกเพื่อสร้างเครือข่ายบ้านเรียน, รองรับการเขียนแผนการศึกษา, การเขียนแบบประเมินและการเก็บร่องรอยการเรียนรู้ พร้อมทั้งยังเขียนเนื้อหาเข้าร่วมในเว็บไซต์ได้อีกด้วย
กำลังทำแผนการศึกษาให้ลูก เห็นหลักสูตรบ้านเราแล้วรู้สึกว่า "เยอะ" ไป แต่จะบอกได้ไงว่าเยอะ ถ้าไม่เทียบกับคนอื่น เลยคิดถึงที่เค้าชื่นชมกันมากคือประเทศฟินแลนด์ เลยไปหาข้อมูลเพิ่มได้ที่น่าสนใจมาดังนี้
สำหรับชายไทยแล้ว มีหน้าที่ต้องรับใช้ชาติด้วยร่างกายที่สมบูรณ์อันมีพละกำลังตามช่วงอายุที่เหมาะสมด้วยการเข้ารับราชการทหาร ..เรื่องนี้สำคัญและหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าหลายคนจะมองว่า "รับใช้ชาติด้วยวิธีอื่นก็น่าจะได้" นั้นเป็นได้เพียงความคิดครับ. เพราะไม่มีทหารประเทศไหนในโลกเลยที่แก่หง่อม ถือปืนแทบไม่ไหวอย่างนั้น จะปกป้องประเทศได้ดีเท่าทหารในวัยหนุ่มอย่างแน่นอน. การเป็นทหารนั้นโดยหลักแล้วที่ต้องเกณฑ์เพราะต้องการร่างกายของคุณ ..ไม่ใช่สมองหรือทักษะด้านอื่นที่เอาไปแบกปืนหรือสู้รบไม่ได้ ..จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจใ้ห้ดี ๆ. ส่วนการยกเว้นการเกณฑ์ทหารด้วยการเรียนรด.นั้น มองตามจริงคือการเข้าฝึกแบบทหารก่อนอายุเหมาะสม ไม่ต่างกับการเกณฑ์ทหารด้วยการสมัคร เพียงแต่สามารถใช้ชีวิตด้านอื่นไปได้ในขณะที่ฝึกรด.เป็นเวลา 3 ปีเท่านั้นเองครับ. ขอให้เลือกตามความเหมาะสมของร่างกายและสถานการณ์เฉพาะแต่ละคนจะดีกว่า