เวลาทองของชีวิตลูก ความทรงจำล้ำค่าของพ่อแม่
ช่วงนี้ผมกำลังตัดต่อคลิปเกี่ยวกับการทำ homeschool ในเด็กเล็กอยู่ โดยนำมาจากการให้สัมภาษณ์น้องนักศึกษาที่มาคุยเรื่องการทำบ้านเรียน
ผมให้สัภาษณ์น้องไปว่า ตอนเล็ก ๆ ก็ไม่มีอะไรมาก แค่พาเค้าไปวิ่งเล่นเป็นประจำ ให้ร่างกายแข็งแรง
แต่ตอนผมเลือกรูปเพื่อประกอบคลิป ความทรงจำต่าง ๆ ย้อนกลับมา แท้จริงแล้วที่ว่าไม่มีอะไรมากนั้นมีมากมายเลยทีเดียว
ไม่น่าเชื่อว่าที่ผ่านมาเราจะทำอะไรกับลูกไว้มากมายขนาดนี้ แน่นอนเค้าคงจำได้ไม่หมดเช่นเดียวกับเรา แต่เราต่างรู้สึกได้
ย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น ผมต้องคอยศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการดูแลเด็ก ไปพร้อม ๆ กับการเอาตัวรอดจากการเลี้ยงลูกในแต่ละวัน วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อ่านหนังสือเกี่ยวกับเด็กที่เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง น่าเบื่อบ้าง แต่จับเอาสิ่งที่เข้าใจมาใช้ประโยชน์
ระหว่างวันต้องคิดว่าจะวันนี้จะทำอะไรกับลูก พาลูกไปไหน มีงานอะไรของตัวเองต้องทำบ้าง และต้องคอยสำรวจตัวเองว่าแต่ละการตัดสินใจที่มีต่อลูกนั้นเหมาะสม พยายามเข้าใจพฤติกรรมและมุมมองของลูก ทำให้ต้องเร่งหาความรู้เพิ่ม วนไปเป็นวงจรแบบนี้
มันเป็นเวลาที่ไม่ง่ายเลยจริง ๆ ผมนึกว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเฉพาะกับผมคนเดียว เพราะเราไม่ได้รักเด็ก แต่เรารักลูก !!!
แต่พอสังเกตพ่อแม่คนอื่น ถึงเข้าใจว่าใคร ๆ ก็เป็น 555
มีช่วงหนึ่งที่ผมถึงกับลองส่งลูกสาว สีฝุ่นไปโรงเรียน ตั้งใจจะส่งไปอาทิตย์ละ 1 - 2 วัน โดยบอกลูกว่าไปโรงเรียนให้พ่อหน่อย 2 วัน ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องไปอีก ลูกก็ไปให้อย่างดีไม่มีงอแง ไปรับก็ไม่อยากกลับจะเล่นกับเพื่อน
แต่พอนั่งรถกลับบ้านถามว่าไปอีกไหม..... คำตอบคือ ไม่ไปอีกแล้วจ้า
ไม่ใช่แค่เพียงตัวผมเท่านั้น ผมได้เห็นคุณพ่อบ้านเรียนท่านหนึ่งได้ตัดสินใจยกธงขาว ยอมส่งลูกไปเนอสเซอรี่ ในช่วงอายุนี้ แต่สุดท้ายต้องยกเลิกเพราะไปแล้วลูกป่วยบ่อยมาก
เมื่อย้อนคิด ผมถึงเข้าใจว่า ทำไมตอนลูกเล็ก ๆ น้ำเสียงของพ่อแม่ที่มีลูกเล็กในหมู่บ้าน จึงเป็นการเฝ้ารอให้ลูกอายุถึงเกณฑ์จะได้ส่งไปเนอสเซอรี่กัน
ทุกวันนี้เวลาเจอพ่อแม่ที่มีลูกเล็ก ๆ ผมจึงต้องคอยให้กำลังใจว่า อดทนรอหน่อย พอเข้า 7 - 8 ขวบทุกอย่างจะค่อย ๆ ดีขึ้น ลูกจะเป็นตัวของตัวเอง และดูแลง่ายขึ้นเรื่อย ๆ
ช่วงนี้เป็นเวลาสำคัญเพราะเด็กจะเรียนรู้จากคนรอบตัวและสภาพแวดล้อม เรียนรู้มุมมองที่มีต่อโลกจากคนรอบตัว เราจึงต้องเลือกว่า เราอยากให้ใครมีอิทธิพลต่อลูก จะให้ลูกเรียนรู้จากเรา หรือเรียนรู้จากคนรุ่นก่อนอย่างปู่ ย่า ตา ยาย หรือจะเรียนรู้ผ่านครูที่ต้องดูแลเด็กในวัยเดียวกันอีกหลายคน เด็กที่เราเลี้ยงคนเดียวก็เหนื่อยแล้ว แต่ครูต้องดูแลเด็กอีกเป็นสิบ ยังไม่ต้องพูดถึงแนวทางการเลี้ยงดูของโรงเรียนอนุบาลแต่ละแห่งอีก
เมื่อได้ย้อนกลับมาดูรูปเก่า ๆ และพัฒนาการของลูกในปัจจบุันแล้วขอยืนยันว่า 0 - 7 ขวบเป็นช่วงเวลาทองของชีวิตเด็ก และเป็นความทรงจำอันล้ำค่าของพ่อแม่จริง ๆ ขอเป็นกำลังใจให้กับพ่อแม่ที่มีลูกเล็กทุกท่านครับ
by Patai on Apr 05, 2019
Posted in คู่มือโฮมสคูล, เรื่องเล่าโฮมสคูล